ทีมชาติบราซิล ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในโลก ซึ่งชนะเลิศฟุตบอลโลก 5 ครั้ง ทีมชาติบราซิลมีชื่อเล่นของทีมว่า Seleção ซึ่งหมายถึง ผู้ที่ถูกเลือก หรือบุคคลที่เลือกมาแล้ว แต่ชื่อที่รู้จักโดยทั่วไปและแฟนฟุตบอลชาวไทยก็นิยมเรียกคือ แซมบ้า (Samba) ทีมชาติได้แชมป์ครั้งแรกเมื่อปี 1958 และปี1962 1970 1994 2002 ตามลำดับ ต้องตามลุ้นว่าในฟุตบอลโลก ปี2014 หนนี้ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ทีมแซมบ้า เจ้าของแชมป์ 5 สมัย จะสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ไปครองได้หรือไม่
![]() |
ทีมชาติบราซิล ปี 1958 |
แชมป์ถ้วยแรก เกิดขึ้นใน ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 6 ปี1958 สวีเดนรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน บราซิลยุคนี้มีนักแตะระดับโลกอย่าง อ็ดสัน อรานเตส โด นาสซิเมนโต้ หรือที่ใครทุกคนรู้จักกันดีว่าเขาคือ ''เปเล่'' นั่นเอง กองหน้าทีมชาติบราซิลเล่นให้ซานโตสขณะมีวัยแค่ 15 ปี ติดทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 16 และได้เล่นฟุตบอลโลกในวัย 17 ปีนั่นเองบราซิลมาทำศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ในฐานะทีมที่มีความตื่นตาตื่นใจในแนวรุกทุกทิศทาง โดยนำระบบ 4-2-4 มาให้ทุกคนได้รู้จักแนวรุกที่มีทั้ง ''เจ้านกน้อย'' การ์รินช่า, เปเล่, มาริโอ ซากัลโล่ และดิดี้ เป็นต้น ต่างเป็นตัวอย่างของฟุตบอลสมัยใหม่อย่างแท้จริง
![]() |
ทีมชาติบราซิล ปี 1962 |
อีก 4 ปีต่อมา ฟุตบอลโลก ปี 1962 เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 7 ที่จัดขึ้นที่ประเทศชิลี ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 17 มิถุนายน ค.ศ. 1962 โดยประเทศชิลีได้รับเลือกเป็นประเทศเจ้าภาพจากฟีฟ่าในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1956 เป็นการแข่งฟุตบอลโลกที่กลับมาจัดที่ทวีปอเมริกาใต้หลังจาก 12 ปีก่อน ผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้คือทีมชาติบราซิล ที่ชนะทีมชาติเชโกสโลวะเกีย 3-1 ในรอบตัดสิน บราซิล ครอบครองถ้วย จูลส์ ริเม่ต์ เอาไว้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี พวกเขากลายเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากอิตาลี ที่ยึดตำแหน่งแชมป์โลกไว้ได้ 2 สมัยติดต่อกัน นอกจากนั้นชัยชนะในครั้งนี้ยังเป็นการประกาศศักดาให้โลกรับรู้อีกว่า มีเพียงทีม "แซมบ้า" เท่านั้นที่หาญกล้าบุกไปซิวแชมป์ในดินแดนยุโรปได้สำเร็จ
![]() |
ทีมชาติบราซิลปี 1970 |
ฟุตบอลโลก ปี 1970 ที่ประเทศเม็กซิโก เป็นฟุตบอลโลกครั้งที่มีสีสันและน่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทีมชาติอังกฤษแชมป์เก่าเดินทางมาป้องกันแชมป์ด้วยสตาร์นักเตะชุดเดิม ขุนพลอินทรีเหล็กมาอย่างแข็งแกร่ง โดยการนำทัพของไกเซอร์หนุ่ม Franz Beckenbauer ขณะที่นักเตะแซมบ้าถูกยกให้เป็นตัวเต็ง ด้วยผลการแข่งขันในรอบคัดเลือกที่เอาชนะได้ทั้ง 6 นัดรวด ยิงไปถึง 23 ประตู และเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น Mário Zagallo อดีตกองหน้าบราซิลที่คว้าแชมป์โลกมาแล้วถึง 2 สมัยในปี ค.ศ.1958 และ 1962 ผันตัวเองมาเป็นโค้ช นำลูกทีมที่มีสุดยอด 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง Jairzinho, Tostão และ Pelé เดินทางมาเพื่อหวังคว้าตำแหน่งแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ให้กับประเทศบราซิล และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ เมื่อสามารถถล่มอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศไปได้ถึง 4-1 ประตู Jairzinho ยิงตลอดทัวร์นาเมนต์ 7 ประตู เป็นรองเพียงคนเดียวคือ Gerd Müller กองหน้าของเยอรมนีตะวันตก ที่ยิงไปถึง 10 ประตู การคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ของทีมชาติบราซิล ทำให้ประเทศบราซิลได้รับเกียรติให้ครอบครองเป็นเจ้าของถ้วยรางวัล Jules Rimet อย่างเป็นการถาวร โดยจะมีการทำถ้วยรางวัลใบใหม่ขึ้นมาสำหรับมอบให้แชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อไปแทน แต่น่าเศร้าที่หลังจากนั้นไม่นาน ถ้วย Jules Rimet ก็ถูกขโมยขณะจัดแสดงอยู่ที่ประเทศบราซิล และหายสาปสูญไปนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน
![]() |
ทีมชาติบราซิล ปี 1994 |
การแข่งขันฟุตบอลโลก ปี1994 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทัวร์นาเมนต์นี้ถือว่ามีการยิงประตูมากมาย ด้วยจำนวน 141ประตูถือว่าเป็นการยิงประตูมากสุดนับจากปี 1982และเรื่องราวก็ถือว่าไม่สั้นมากนัก ซึ่งทีมชาติบัลแกเรียไม่เคยคว้าชัยชนะในศึกฟุตบอลโลกเลย ได้กระทำการอันยิ่งใหญ่โดยการเบียดชนะเยอรมันในรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่ดีเอโก้ มาราโดน่าถูกตรวจพบว่ามีการใช้สารกระตุ้นก็ถูกขับออกจากทัวร์นาเมนต์และทีมของเขาก็ตกรอบ16ทีมพ่ายให้แก่โรมาเนียด้วยฝีเท้าของ จอร์จี้ ฮาจี้ แต่การแข่งขันในปีนี้ก็ยังมีเรื่องที่น่าเศร้า เมื่อ อันเดรียส เอสโคบาร์ กองหลังโคลอมเบีย ถูกลอบยิงหลังจากที่เขาทำเข้าประตูตัวเองจนตกรอบแรกในนัดที่พบ สหรัฐฯ ทำให้ทีมลุงแซม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมจนไปพ่ายเพียง 0-1 เท่านั้นจนสามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาก็เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกเช่นกัน เกมนัดชิงชนะเลิศที่ พาซาเดน่า เป็นคู่ชิงคู่เดียวกับเมื่อปี 1970 และทั้งสองฝั่งต่างก็มีดีกรีแชมป์โลกสามสมัยมาเหมือนกัน ถือว่าเป็นอีกคู่ชิงในฝันเช่นกัน และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นหนแรกที่การตัดสินนแชมป์ต้องไปถึงการยิงจุดโทษ และแน่นอน บาจโจ ที่ช่วยทีมชาติอิตาลีมาตลอด แต่เขากลับยิงจุดโทษลูกตัดสินข้ามคานออกไปทั้งนี้ เขามีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ด้วย ทำให้ บราซิล คว้าแชมป์โลกอีกหนสมกับการรอคอยมา 24 ปีเต็ม แซมบ้าชุดนี้ มี คาร์ลอส ดุงก้า เป็นกัปตันทีมอย่างไรก็ตาม ชุดนี้สตาร์ดังในทีมก็มีไม่มากนัก แต่ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์เรร่า กุนซือก็ได้ส่งทั้ง โรมาริโอ กับ เบเบโต้ แจ้งเกิดบนเวทีระดับโลก และในปีนี้เองก็ยังมี โรนัลโด้ อยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรองด้วยวัยเพียง 17 กะรัตเท่านั้น
![]() |
ทีมชาติบราซิลปี 2002 |
ฟุตบอลโลกปี 2002 ฟุตบอลโลกหนแรกบนแผ่นดินเอเชียเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการลูกหนัง ซึ่งเต็ม ไปด้วยความน่าประหลาดใจ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน นับตั้งแต่นัดเปิดสนามไปจนนัดชิงชนะเลิศ แต่สุดท้ายก็กลายเป็น 2 ทีมยักษ์ใหญ่หน้าเดิมๆ อย่างเยอรมัน และบราซิล ที่ได้ดวลแข้งแย่งแชมป์โลก ก่อนที่ทีมดังจากอเมริกาใต้ ซึ่งมี "3 อาร์" - โรนัลโด้, ริวัลโด้ และ โรนัลดินโญ่ เป็นตัวชูโรง จะผงาดครอง แชมป์โลก สมัยที่ 5 มากกว่าใครๆ ในโลกหล้าไปในที่สุด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น